fbpx
ความรู้และบริการด้านประกันชีวิตในอเมริกา
ความรู้และบริการด้านประกันชีวิตในอเมริกา

ประกันชีวิต เดอะซี่รี่ ตอนที่ 3 ต้องเริ่มจากตรงไหนในการหาประกันชีวิต

howtoselect

ต้องเริ่มตรงไหนในการหาประกันชีวิต

ก่อนจะเข้าเรื่อง อยากจะบอกความจริงบางอย่างจากประสบการณ์ตรง บ่อยครั้งหยกมักจะโดนถามว่า มีมั๊ย ประกันชีวิตที่ครอบคลุมทุกโรค ครอบคลุมอุบัติเหตุ หลายท่านเข้าใจผิดเพราะได้ยินจากคนอื่นมา บ้างจำมาจากเมืองไทย นั่นคือการเล่นคำ ทำให้ดูน่าสนใจเท่านั้นค่ะ

ความจริงคือ ประกันชีวิตในอเมริกา เป็นจริง ณ ขณะที่ทำ หมายความว่า หากผู้เอาประกัน(insured)ตรวจสุขภาพผ่าน บริษัท approved กรมธรรม์ออกมาแล้ว นับจากวันแรกที่จ่ายเบี้ย ผู้เอาประกันจะได้รับการคุ้มครองทันที หากเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุบริษัทก็จ่าย ที่สำคัญ หากหลังจากกรมธรรม์ได้ถูกบังคับใช้( in force) คุ้มครองผู้เอาประกันแล้ว อีกไม่นานต่อมาผู้เอาประกันป่วยเป็นโรคเสียชีวิตกระทันหัน บริษัทประกันก็ต้องจ่าย death benefit ไม่ว่าผู้เอาประกันจะป่วยตายเพราะโรคอะไร ฉะนั้นประกันชีวิตที่อเมริกา ครอบคลุมแน่นอนค่ะ

 

คำเตือน!
1. การเลือกซื้อประกันต้องศึกษา ท่านมีสิทธิ์เลือกเหมือนซื้อของอย่างอื่นในตลาด มีตัวเลือกมากมายให้เปรียบเทียบก่อนซื้อ ซื้อได้ และยกเลิกได้ ในเวลาที่กำหนดและได้ full refund อย่าซื้อเพราะเกรงใจเด็ดขาด และควรซื้อเมื่อท่านเข้าใจในตัวโปรดักที่ท่านจะได้จริงๆ เท่านั้น อย่าลืมว่ากรมธรรม์จะอยู่กับหลายสิบปี เลือกให้ดีค่ะ ลองทำ list คัดกรองตามด้านล่างนี้แล้ว ก็คุยกับ Agent เพื่อประหยัดเวลา ท่านจะเสียเวลาเป็นหลายเดือนกว่าจะเข้าใจหากขาดคำชี้แนะจาก Agent ที่มีความเข้าใจ

2. ผู้เอาประกันควรบอกข้อมูลตามจริง หยกจะแนะนำลูกค้าหยกแบบนี้เสมอ เพื่อที่จะหาโปรดักที่เหมาะสมแก่คุณลูกค้าที่สุด และ Agent ก็ควรให้ข้อมูลตามจริงเช่นกัน และผู้เอาประกันควรถามคำถามให้เข้าใจทุกข้อ ก่อนที่ท่านจะซื้อโปรดักตัวนั้นค่ะ

3. ถ้าหากวันนี้ท่านยังหนุ่ม ยังสาว ยังไม่มีครอบครัว หรือมีแล้ว และสุขภาพยังแข็งแรง มีแรงทำงาน หากคิดอยากจะเก็บเงินหรือ ป้องกันความเสี่ยงให้กับครอบครัว อยากทำประกันชีวิตรีบทำเลยค่ะ เพราะชีวิตคือความไม่แน่นอน ที่สำคัญเบี้ยประกันชีวิตจะแพงขึ้นตามอายุ และสุขภาพที่เสื่อมไปของท่าน ยิ่งทำตั้งแต่อายุน้อยๆ จ่ายเบี้ยถูกกว่า ที่สำคัญปัจจุบันนี้ ประกันชีวิตบางผลิตภัณฑ์ไม่ต้องจ่ายเบี้ยไปตลอดชีวิต

แล้วสรุปต้องเริ่มจากตรงไหนในการเลือกประกันชีวิต วันนี้หยกขอมาแนะนำการทำ check list ว่าต้องดูเริ่มจากตรงไหน Agent ดูจากอะไรในการคัดกรองโปรดักให้ลูกค้า

  • สุขภาพแข็งแรงดี หรือว่ามีโรคประจำตัว มันสำคัญยังไง?
    สำหรับคนสุขภาพแข็งแรงดี ก็ไม่น่าเป็นปัญหาค่ะ ท่านพร้อมอยู่แล้ว มีหลายทางเลือก แต่สำหรับท่านที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไทรอย หรือมะเร็งบางประเภท(case by case) เป็นต้น ก็ต้องใช้บริษัทที่มี table shaving หรือก็คือบริษัที่เป็นมิตรกับโรค จะทำให้จ่ายเบี้ยถูกกว่า บริษัทประกันที่ไม่มี table shaving มากโขเลยค่ะ และเท่าที่หยกทราบ มีแค่ 2 บริษัทในอเมริกาที่ใช้ Table shaving ลองปรึกษากับ agent ดูค่ะจะได้แนะนำว่าประกันชีวิตแบบไหนที่เหมาะกับท่าน เป็นต้น
  • Budget – ข้อนี้ก็สำคัญไม่แพ้ข้อแรกค่ะ เพราะประกันชีวิตก็เป็น expense เหมือนกัน ต้องดูว่าเหมาะกับค่าใช้จ่ายเรามั๊ย ส่วนมากหยกจะแนะนำลูกค้าว่าหากยังไม่พร้อม budget น้อยก็ให้ทำประกันชีวิต Term life insurance ไปก่อนอย่างน้อยจะได้มี protection ให้กับครอบครัว เพราะจ่ายถูกมาก
  • สภาวะของครอบครัว เช่น บางครอบครัวที่เป็น special need family และไม่สามารถมี Life insurance ที่เป็นเงินสะสมได้ Agent ที่มีประสบการณ์จะทราบข้อนี้ดี ฉะนั้นในกรณีนี้ ทั้งตัวผู้ที่จะเอาประกันจะต้องแจ้งทาง Agent ให้ทราบ เพื่อให้หาโปรดักที่เหมาะสมให้ ไม่เช่นนั้นจะมีผลกระทบมหาศาลเลยทีเดียวค่ะ
  • วัตถุประสงค์ของท่านในการทำประกันชีวิต วัตุถุประสงค์ของผู้เอาประกันหลักๆ ก็จะเป็นในเรื่องของ…

lovewife

 

Protection ให้ครอบครัว ในกรณีที่ท่านจากไปกระทันหัน(Die too soon) โดยเฉพาะท่านที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ควรจะมีประกันชีวิตไว้ค่ะ จะเอาแบบเป็นการันตี death benefit ก็ได้ ในตลาดปัจจุบันนี้มี ประกันชีวิตแบบนี้การันตีเงินเสียชีวิต แต่เบี้ยจ่ายไม่แพงเหมือนโปรดักสมัยเก่าอย่าง whole life เรียกว่า GIUL (Guarantee Indexed Universal life insurance) เน้นๆ การันตี death benefit

happyfam     Money Saving  เป็นเหมือนกันมั๊ยคะ? เป็นโรคแพ้เงินในบัญชี เห็นต้องใช้ แบบนี้ต้องหาทางเก็บลืม ทางเลือกที่ดีอีกวิธีหนึ่งคือการฝากเงินเก็บไว้ในประกันชีวิต เพราะบางโปรดักอย่าง IUL หรือ Indexed Universal Life insurance ที่หยกได้พูดบ่อยๆ ให้ผลตอบแทนสูง อีกทั้งได้รับความคุ้มครองผู้ฝากตังค์อีก สามารถนำมาเป็นเงินใช้ตอนเกษียณแบบ tax-free ได้

 thinking_pandaEstate tax planning สำหรับคนที่เป็น high networth หรือคนที่มีสินทรัพย์มากว่า $5.45 ขึ้นไป(IRS 2016)จะเป็น Estate tax ประกันชีวิตสามารถเข้าช่วยตรงนี้ได้ แต่แนะนำว่าต้องหา Agent ที่เข้าใจในเรื่อง estate tax planning นะคะ เพราะว่าหาก structure ไม่ถูกต้อง เงิน death benefit จะกลายเป็นภาษี (Estate tax) เพราะจะถูกนำไปรวมกันทรัพย์สินส่วนอื่นๆ ที่ ผู้เอาประกันมีค่ะ

jumpingBusiness ไม่ว่าจะเป็นการ protect key employee, หรือทำเพื่อเป็นเงินเกษียณแบบ Tax-free income ของเจ้าของกิจการ เงินที่นำมาจ่ายเบี้ยสามารถนำไปหักภาษีได้ 100%  แบบ Capital Split Dollar

Tax Free Gift เช่น ถ้าเป็นสมัยก่อน ปู่ ย่า ตา ยาย ต้องการจะเอาสมบัติทิ้งให้หลานๆ ก็ต้องยกที่ดิน สินทรัพย์ให้เป็นมรดกตกแก่รุ่นหลานแบบนี้ในอเมริกา gift ที่มีมูลค่า $14,000 จะเป็น gift tax  ถ้าปู่ ย่า อยู่ต่างประเทศ ต้องการให้สินทรัพย์ หรือมรดกแก่หลานๆ ที่อยู่ในอเมริกา หรือต่างประเทศ ประกันชีวิตก็ตอบโจทย์นี้ได้เช่นกัน[Foreign national ประกันชีวิตสำหรับต่างชาติ ที่ไม่ได้เป็นกรีนการ์ด หรือ U.S. citizen]

  • Charity ทำประกันชีวิต เพื่อการกุศล

panda_yell

มาบอกแบบนี้ ฉันก็ยังไม่รู้อยู่ดี ว่าจะเลือกยังไง!!

ใจเย็นๆ ค่ะ ทั้งหมดทั้งมวลที่หยกว่ามานั้นเป็นแค่แนวทางสำหรับผู้ที่คิดจะทำประกันชีวิต จะได้คุยกับ Agent ถูกว่าอยากให้เขานำเสนอประกันชีวิตแบบใด ในหัวข้อหน้าหยกจะมาเทียบโปรดักในตลาดให้อ่านค่ะ จะได้รู้ความแตกต่างว่า ประกันชีวิตแบบไหนเป็นอย่างไร มีข้อด้อย มีข้อดี แตกต่างกันอย่างไร

หากท่านมีคำถาม สามารถถามด้านล่างนี้ได้เลย หรือหากไม่สะดวกจะติดต่อสื่อสารผ่านทางอื่นก็ได้ค่ะ

Friends Added

Please follow and like us:
fb-share-icon

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Follow by Email
YouTube
YouTube