Whole Life Insurance
หากจะพูดถึง whole life insurance คนไทยหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่คู่กับคนไทยที่เมืองไทยมาช้านาน และยังได้รับความนิยมอยู่ เป็นประกันชีวิตน่าจะมาตั้งแต่สมัยพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย เคยได้รับความนิยมมากในสมัยก่อน เพราะเป็นประกันชีวิตแบบคุ้มครองตลอดชีพ รุ่นแรกๆ สมัยนี้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าใดนัก
ข้อดีของ whole life คือ
1. คุ้มครองตลอดชีพ ไปจนถึงอายุ 100 ปี ในปัจจุบัน บริษัทประกันบางบริษัทในอเมริกามีการเสนอความ คุ้มครองจนถึงอายุ 120 ปี ให้แก่ลูกค้าแต่น้อยที่จะมีถึง 120ปี
2. มีเงินสะสมให้ (Cash accumulation value) มี surrender charge value หรือมูลค่าเวนคืน [แนะนำอ่าน: องค์ประกอบสำคัญในประกันชีวิต]
3. การันตีดอกเบี้ยเงินสะสม แต่ดอกเบี้ยต่ำ
4. Loan เงินออกมาจากเงินสะสมได้ แต่ต้องจ่ายคืน ไม่งั้นกรมธรรม์อาจจะเกิดการ lapse
ข้อเสียของ whole life คือ
1. ค่าเบี้ยประกันแพง เพราะ cost of insurance (COI) หรือค่าประกันภัยสูงมากเมื่อเทียบกับ Indexed Universal Life Insurance
2. ไม่มี flexible อาจจะต้องส่งเบี้ยประกันหรือ premium ตลอดชีวิต
3. อาจต้องมีการจ่ายเบี้ยเพิ่ม เมื่ออายุผู้รับการประกัน (insured) เพิ่มมากขึ้น เพื่อป้องกันกรมธรรม์ขาด(lapse)
4. เพราะดอกเบี้ยในเงินสะสม ถูกการันตีไว้ ทำให้การจ่ายเบี้ยไม่มีความยืดหยุ่น (ไม่มี flexible premium) เจ้าของกรมธรรม์เลือกไม่ได้ ว่าอยากจ่ายบ่อย หรือจ่ายเบี้ยนานแค่ไหน หากเทียบกับประกันตลอดชีพแบบอื่นเช่น Indexed universal life insurance หาก stop payment กรมธรรม์จะกู้เงินออกมาจากเงินสะสมอัติโนมัติแบบเต็มจำนวนเบี้ย (ไม่ใช่แค่ดึง internal cost เหมือนอย่าง IUL) และ เมื่อมีการแตะเงินเก็บ death benefit ที่การันตี ก็จะไม่การันตีอีกต่อไป
5. เงิน Loan ออกมาจากเล่ม ใน whole life จะต้องจ่ายเงินที่ loan คืนพร้อมดอกเบี้ย หรืออย่างน้อยต้องจ่ายดอกเบี้ยกลับ
6. ผลตอบแทนต่ำ และไม่ระบุว่ามาจากการอ้างอิงการลงทุนใด เมื่อมีการแตะเงินเก็บ death benefit ที่การันตี ก็จะไม่การันตีอีกต่อไป
Quote Permanent Life Insurance online ได้ไหม?
ไม่สามารถทำได้ค่ะ เพราะ Whole life illustration ต้องเป็นตัวแทนที่มีความเข้าใจ และถูกเทรนมากจาก professional ทำจะชัวร์กว่า เพราะมันจะต้องอาศัยความเข้าใจในการเลือก Classification risk หรือ rate สุขภาพของผู้ที่จะรับการประกัน(insured) ด้วย
Whole Life ต้องดีกว่าสิในเมื่อยังมีเอเจ้นยังเชียร์ให้ซื้ออยู่
ในมุมมองของหยก การมีประกันชีวิตไม่ว่าจะรูปแบบใดดีทั้งนั้น ถือว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงของครอบครัว ถามว่า เอเจ้นอย่างหยกขาย whole life ไม่ได้เหรอ ทำไมไม่เชียร์ ขึ้นชื่อว่าเป็น independent agency ที่ทำงานภายใต้ General agency ก็เหมือนกับ broker นี่หละหละ ขายได้แน่นอน สำหรับ whole life แต่หยกจะเน้นย้ำในเรื่องของ cost effective มากกว่า คือ สิ่งที่นำเสนอให้กับลูกค้า จะต้องคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไป ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นและน่าสนใจกว่า whole life ออกมามาก โดยมากแล้ว whole life จะถูกนำมาทำเป็นประกันชีวิตเพื่อเป็นค่า final expense หรือค่าทำศพมากกว่า หากมีใครมมาเชียร์ให้ซื้อ whole life ตอนนี้อย่าเพิ่งตัดสินใจค่ะ ให้ขอเทียบกับ product ตัวอื่นดูก่อน บางบริษัทไม่สามารถขายตัวอื่นได้ ก็ต้องขาย whole life ได้อย่างเดียว เลยต้องเชียร์สะสุดใจขาดดิ้น เพราะไม่ใช่ทุกบริษัทที่มีศักยะภาพที่จะขายผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆได้ทุกตัว เพราะฉะนั้นศึกษา และเปรียบเทียบโปรดักดูก่อน จะดีมากค่ะ [แนะนำอ่าน: Indexed Universal Life Insurance]
