fbpx
ความรู้และบริการด้านประกันชีวิตในอเมริกา
ความรู้และบริการด้านประกันชีวิตในอเมริกา

อยากเป็น Independent Life Agent ต้องทำอย่างไรบ้าง

Life agent

อยากเป็น Independent Life Agent ต้องทำอย่างไรบ้าง

การทำงานใน Life insurance industry เป็นงานที่น่าสนใจมากๆ อย่างหนึ่งค่ะ มันต้องใช้ความสามารถเพราะงานมีความท้าทายในตัวอยู่แล้ว อาชีพเราเป็นอาชีพที่ทำให้คนอื่นมั่นคง ปลอดภัย ฉะนั้น คนทำงานในด้านนี้ต้องยินดี และเต็มใจบริการ ให้ข้อมูลความรู้กับลูกค้าได้อย่างแจ่มแจ้ง รู้สึกสนใจขึ้นมาแล้วใช่ไหมคะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาเริ่มกันเลยค่ะ

Requirement การสอบ State License:
1. ต้องเป็น U.S Resident or U.S Citizen
2. ต้องเป็น resident ของรัฐที่คุณกำลังจะไปสอบ license ( resident state)

Independent Life Agent มีขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้

  1. แนะนำว่า ควรมองหา agency ที่เหมาะกับเราก่อน ต้องบอกก่อนว่าขั้นตอนนี้เหมือนกับการ shop หารถ หรือบ้านนั่นหละค่ะ ควรจะสมรสนิยมกันก่อน คือเราจะไปทำงานกับเค้า หาเงินให้ agency ฉะนั้นเราต้องไปสัมภาษณ์ สัมผัส agency นั้นก่อน ว่าทรงภูมิมั๊ย มีความรู้อะไรมาสอนเรา ไปทดสอบก่อน agency ที่ดีจะต้องสอนองค์ความรู้ที่จะทำให้เราอยู่รอดในตลาดนี้ได้ อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ด้านโปรดัก ภาษีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง business planning ต่างๆ รวมถึง ความรู้ความเข้าใจด้านประกันชีวิตเชิงลึก

    การทดสอบภูมิของ Agency หรือหัวหน้างานเรา ทำได้โดย เข้าไปฟัง นัดเข้าไปสัมภาษณ์ agency ที่คุณสนใจก่อนว่า แนวทางการทำงานเหมือนที่เราอยากทำไหม เข้าไปฟังการประชุมของเค้าก็ได้ แต่…แต่ อย่าเพิ่งหลวมตัวนะ อย่าเพิ่ง appoint (การกรอกใบสมัครเป็น life agent ในสังกัด) นะ ชอบเจ้าไหนให้ทดไว้ในใจก่อน แล้วไปดู agency อื่นเปรียบเทียบกันด้วย เพราะ ณ จุดนี้ เราไม่ได้พันธสัญญาอะไรกับการเข้าประชุม หรือเข้าสัมภาษณ์ agency เพื่อดูนโยบายการทำงานอยู่แล้ว ต้องมั่นใจก่อนว่าเราจะมีคนเทรนฝีมือดี มีความรู้  และ provide support ให้เรา คอยดูแล ที่สำคัญคือ ในการส่ง appointment form หรือใบสมัครการเป็น agent ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในการสมัครนะคะ รวมถึงค่า background check ด้วย ทาง Agency ที่เราตัดสินใจทำงานร่วมกับเขาจะเป็นคนออกค่ะ

  2. หลังจากที่ได้ Agency ที่ถูกใจแล้ว (หรืออาจจะหา agency ไปเรื่อยๆ ในช่วงที่เรียนอยู่ก็ได้) จากนั้นก็ลงทะเบียนเรียน pre-licensing courses ออนไลน์ แต่ละรัฐก็จะมีไม่เหมือนกันให้เข้าไปหาข้อมูลจาก Department of insurance เรื่อง pre-licensing courses ของรัฐที่คุณอยู่นะคะ  ส่วนมากที่สามารถเรียนออนไลน์ได้จะใช้ของ Prelicensetraining.com ค่ะ ในการกรอกข้อมูลนั้นทางเว็บไซด์ต้องการข้อมูลจริง รวมทั้ง SSN ของผู้เข้าเรียน เนื่องจากว่าเป็น requirement จาก Department of Insurance ว่าต้องนับเวลาที่เรานั่งเรียน นั่งศึกษา ให้ครบตามชั่วโมงที่กำหนด แล้วข้อมูลการเรียนจะถูกส่งไปยัง Department of Insurance หลังจากที่เราเรียนจบคอส เราถึงจะสามารถลงทะเบียนขอสอบ License ได้
    • สำหรับคนที่ต้องการเป็น Life agent ที่สามารถขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตพร้อมกับ Long-term care ได้นั้น ต้องเรียน Life agent course,  Accident and Health Ethic code รวมแล้ว 52 ชั่วโมงสำหรับ fundamental โดยแบ่งเป็น
      • Ethic code 12 ชั่วโมง
      • Life 20 ชั่วโมง
      • Accident & Health 20 ชั่วโมง
        ** ข้อมูลชั่วโมงการเรียน อ้างอิงจาก California Department of Insurance กรุณาตรวจสอบในรัฐที่ท่านอยู่เพื่อถูกต้อง
  3. หลังจากเรียน ก็ลงทะเบียนสอบ License คุณสามารถลงทะเบียนสอบได้จากสองแหล่งคือ PSI หรือ CDI สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมในลงทะเบียนสอบได้จาก Department of Insurance  ของรัฐนั้นๆ หรือ PSI ค่าลงทะเบียนสอบจะแพงกว่าหน่อยค่ะ แต่จะมีสถานที่ให้เลือกสอบได้มากกว่า
  4. หากทำการสอบผ่านแล้ว ทาง Department of Insurance ก็จะขอทำการตรวจสอบประวัติ ด้วยการทำ Finger print ทั้งสิบนิ้ว ว่าเราไม่มีประวัติอาชญากรรม หรือทำผิดร้ายแรงมาก่อน
  5. หลังจากสอบผ่าน และทำ fingerprint ขั้นตอนต่อไปคือ คือ file Life insurance state license จะมี instruction บอกเมื่อเราสอบผ่าน ถ้า green card อาจจะต้องเตรียม copy of green card ส่งให้ department of insurance แต่ถ้า citizen ก็จะผ่านตรงนี้ไปได้เลย
  6. จากนั้นรอให้ state approved license น่าจะไม่เกิน 1 เดือน จะมีการแจ้งมาทางอีเมลล์ที่เรา file ไว้ เพื่อไปปริ้น state license
  7. ลงทะเบียนเรียนออนไลน์  Long-term care course อีก 8 ชั่วโมง เพื่อเก็บ certification บริษัทประกันมี requirement ว่า agent จะขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตกับ long-term care  จะต้องมี Health line และ life line license
  8. ลงทะเบียนเรียนออนไลน์ Annuity (ประกันชีวิตแบบกันอยู่ยืน) 8 ชั่วโมง หากคุณต้องการขายผลิตภัณฑ์ชีวิตประเภทนี้ แนะนำว่าควรมีนะคะ
  9. ส่งเอกสาร certificate ทุกอย่างให้กับทาง agency จากนั้น ทาง agency จะทำการ appoint เรากับตัว Agency เอง และ appoint กับบริษัทประกันต่างๆ ให้
  10. ซื้อประกัน E & O หรือ Error and Omission insurance เพื่อคุ้มครองตัวเราเอง ทุนประกันเริ่มต้น $1,000,000 สำหรับ agent มือใหม่ ที่มีการขายได้ไม่มาก แต่ค่า premium ก็ไม่แพงค่ะ ถูกกว่าประกันรถยนต์มหาศาล แบ่งจ่ายได้เหมือนประกันรถยนต์ เพราะหากไม่มีประกัน E&O บริษัทประกันจะไม่รับค่ะ

หลังจากที่เราลงทะเบียนกับทาง CDI แล้วตัวเราจะได้ National Insurance number ค่ะ เป็นหมายเลขที่ให้เฉพาะตัวเราเท่านั้นไม่ซ้ำกับใคร และจะแตกต่างกับ License number ต่อจากนั้นทางบริษัทประกันแต่ละบริษัทจะขอให้เราเรียน AML หรือ Anti-money Laundering ค่ะ ถึงจะสามารถขายผลิตภัณฑ์ได้

** สรุปว่า กระบวนการทั้งหมด จนเราได้ license พร้อมทำงาน จะเสียค่า state license fees และค่าเรียนประมาณ $800-$1,000 แต่รับรองว่ามันจะเป็นอาชีพที่หารายได้หลักให้ครอบครัวได้เลยทีเดียว

*** และขอใบ้ให้อีกหน่อยว่า Agency ที่ดีไม่ควรเอาเปรียบเรา ค่า commission ที่พอรับได้ต้องเริ่มไต่จาก 50% start ไม่อย่างงั้น เราจะไม่มีเวลามานั่งเรียนอย่างอื่นเพื่อต่อยอดความรู้เลย เพราะนอกจากเราต้องเทรนเรื่องโปรดักเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนนำไปเสนอให้ลูกค้าแล้ว ยังต้องเรียนรู้เรื่องการเงินด้านอื่นๆ ประกอบเช่นกัน เช่น เรื่อง 401K , IRA หรือ qualified plan ต่างๆ แม้แต่ด้านการลงทุน เหล่านี้ มีประโยชน์มากๆ ในการแนะนำลูกค้า โดยความเห็นส่วนตัวจากประสบการณ์หลายปี คนที่จะอยู่รอดในอาชีพนี้อย่างมั่นคง จำเป็นต้องมีความรู้มาก เพราะถ้าเราไม่มีความรู้จะไม่สามารถทำงานในอาชีพนี้ได้อย่างยั่งยืน ที่สำคัญเราในฐานะ agent สามารถถูกฟ้องร้อง ถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพได้ หรือแม้แต่ถูกริบค่า commission คืน ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นหลังจากการขาย ฉะนั้น ความรู้มัน super duper important จริงๆค่ะ

ขอให้ทุกคนที่หวังจะทำงานในอาชีพนี้ ประสบความสำเร็จทุกคนนะคะ

Please follow and like us:
fb-share-icon

Leave a comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

6 thoughts on “อยากเป็น Independent Life Agent ต้องทำอย่างไรบ้าง”

Follow by Email
YouTube
YouTube