ประเภทของ Life Insurance Agent
สำหรับคนที่กำลังมองหาประกันชีวิต แน่นอนค่ะ ว่าสิ่งที่แรกที่ต้องมองหาคือ Life agent แต่ว่าประกันชีวิตมีหลายบริษัทเหลือเกิน แถมมี agent มาเสนอโปรดักแตกต่างกันไปอีก เอาไงดี? Agent เหล่านั้นเหมือนกันหมดรึเปล่า ความเป็นมาเป็นยังไง เลือกแบบไหนถึงจะโดนใจ และได้โปรดักที่ดีจริงๆ ข้อสงสัยเหล่านี้เชื่อว่า ทุกคนที่คิดจะทำประกันชีวิต หรือออมเงินผ่านประกันชีวิตคงมีข้อสงสัยเหล่านี้ หรือมากกว่านี้เป็นนี้
Agent มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยวางแผนการเงิน หรือจัดการด้านประกันชีวิตให้กับคุณและครอบครัว Agent ของแต่ละองค์กรหรือบริษัทก็จะถูกเทรน เรียนรู้แตกต่างกันไป และมีแนวทางการนำเสนอโปรดัก รวมถึง work ethic ที่ไม่เหมือนกัน เรามาทำความรู้จักกับ Life insurance Agent กันดีกว่าค่ะ ว่าหลักๆ แล้วมีอะไรบ้าง
ในอเมริกามี Life Agent มีอยู่ 2 ประเภท คือ
- Captive Agent คือเอเจ้นที่ทำงานโดยตรงกับบริษัทหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง มีเครือข่าย มีบริษัทแม่ที่มีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมาให้ขาย อาจจะมีโปรดักจากบริษัทอื่นมาขายบ้าง เพื่อให้ลูกค้ามี choice เลือก แต่ส่วนมาก็จะเน้นบริษัทจากบริษัทสายตรงของตน คิดง่ายๆ ก็คือ มีทางเลือกเพิ่มแต่ไม่ควรเน้นขายจากบริษัทอื่น เพราะไม่อย่างนั้นโปรดักของบริษัทตนจะไม่ได้ขาย บริษัทจะอยู่ไม่ได้ Agent สายตรงเหล่านี้ จะมีความรู้ เชี่ยวชาญเรื่องโปรดักในบริษัทตนมากกว่า อัพเดททุกอย่างอาจจะไวกว่า แต่ก็ไม่จำเป็นเสมอไปคะ
- Independent Agent หรืออาจจะเรียกอีกอย่างว่า Life insurance broker ก็ได้ คือเอเจ้นที่ทำงานอิสระ ตรงตามชื่อเป๊ะค่ะ คำว่าทำงานอิสระหมายความว่า ไม่ขึ้นตรงต่อบริษัทใดหรือองค์ใดองค์หนึ่ง มีอิสระในการขายผลิตภัณฑ์มากกว่า สามารถหาตัวเลือกให้ลูกค้าได้มากกว่า เพราะไม่มีบริษัทต้นสังกัดคอยควบคุมติดตามผล โดยมากจะเน้นด้านการขายโปรดักมากกว่าการสร้างเครือข่าย
จะรู้ได้อย่างไงว่า agent ที่คุยด้วยเป็นแบบไหน
ง่ายมากๆ ค่ะ Agent ต้องมีการแนะนำตัวและบอกอยู่แล้วว่าเขามาจากไหน ทำอะไร เหมือนกับเป็นการแนะนำตัวก่อนเปิดการเจรจากับ prospect (ผู้ที่มีความสนใจและหวังว่าจะเป็นลูกค้าในอนาคต) อยู่แล้ว คุณในฐานะ prospect ที่ agent มาเสนอโปรดักนั้นสามารถสอบถามได้ทุกอย่าง เพราะ Agent มีหน้าที่ไขข้อข้องใจและให้ความกระจ่างแก่เราค่ะ อย่ากลัวในการเลือกเอเจ้นที่คิดว่าคุณไว้ใจนะคะ เพราะอย่าลืมว่าคุณจะต้องเอาเงินจำนวนหลายตังค์เข้าไปไว้ในกรมธรรม์ ฉะนั้นการศึกษาเกี่ยวผลิตภัณฑ์ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองและคนที่คุณรักอย่างดีที่สุดค่ะ Agent ที่ดีจะต้องทำให้ลูกค้าเข้าใจก่อนว่า หากซื้อประกันชีวิตไปแล้วลูกค้าจะได้อะไรบ้าง ตรงตามวัตถุประสงค์ของการทำประกันชีวิตที่อยากได้หรือไม่ หากไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่คุณต้องการซื้อก็ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อค่ะ เพราะการทำประกันชีวิตเป็นการหวังผลในระยะยาว และเป็นการให้ความคุ้มครองความมั่นคงของครอบครัวของคุณเอง เลือก Agent ที่มีความรู้ ความเข้าใจ ในประกันชีวิตมาช่วยวางแผนความมั่นคงให้ครอบครัวคุณจะดีกว่าค่ะ